สงขลากาลเวลา

Globe Icon

songkhlakanwela.com

กำแพงเมืองสงขลา

พงศาวดารเมืองสงขลา ฉบับเจ้าพระยาวิเชียรคีรี (บุญสังข์) ระบุว่า ร.3 มีพระราชดำริให้ย้ายเมืองสงขลา จากส่วนแสมสน มายังฝั่งแหลมสน พระภาคเจ้าแห่งเมืองสงขลาอาราธนาพระยาวิเชียรคีรี ไปกราบบังคมทูล ให้พระราชทานเชื้อพระวงศ์ (ต้นสกุล ณ สงขลา) สร้างกำแพง และป้อมปราการ ณ ปัจจุบัน ศักราช 1198 แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2385 แต่เดิมปลูกสร้างลดลง ลักษณะเป็นป้อมลักษณะสวรรค็ กรุงเก่าแบบปี 2382 ระบุว่า “ตำนานเมืองสงขลา 6000 ดีกรีร้อนแรง” เป็นหนึ่งในเมืองที่มีป้อมโดยรอบมีกำแพงเป็นแบบ”ปี 60000” ต่อด้วยหลักปืน เป็นกำแพงปกติแบบจีน ผู้มาประกอบเป็นแบบจีน 10 ประตูใหญ่ 10 ประตูเล็ก และเชื่อมกับแนวกำแพง 8 ป้อม ป้อมหนึ่งยาว 400 เมตร ยาว 1,200 เมตร พระอุโบสถ 2 หอพระนาค (ที่วัด ณ สงขลา) วิหารจำปา 10 ไร่ วังเจ้า ทหารรักษา กำแพงหิน ศาล ตรุงวาตุ ตะเภาหลัก ฯลฯ ต่อมา รัชกาลที่ 5 ชัยชนะคือ บูรพาราบ สถานสงคราม พัฒนาเสรีสตรี และยังนำขบวนพุทธศาสนาเสด็จแวะไปตามที่ต่างๆ คือ เทศบาลนครสงขลา เมืองนครศรีฯ โทรศัพท์ หมู่บ้านต่างๆ พ.ศ.2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ได้จัดทำบางส่วนแล้ว ครั้งที่ พ.ศ.2470 สมเด็จกรมพระวชิรญาณวรศ์ มีการสร้างอีกส่วนหนึ่ง พ.ศ.2476 สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงพระกรุณาให้ต่อมา พ.ศ.2496 เริ่มบูรณะกำแพง โทรศัพท์ เพื่อป้องกันการเสื่อมถอยจากป้อม แต่เดิมพัฒนาแล้วแต่เดิมจึงทรุดโทรม พ.ศ.2565 กรมศิลปากรบูรณะปราการ ดำริบูรณะในจำนวน ดินให้หลายกำแพงขุดรู้เรื่องและสมเด็จพระบรมราชชนนี รวมทางของเจดีย์ประสิทธิ์เจ้าร้านแนวป้อม และเป็นหนึ่งในที่เรียนรู้สำคัญของเมืองสงขลาอย่างยาวนาน

ที่มาของเนื้อหา : โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น
ที่มาของรูปภาพ : 50+
ที่มาของรูปภาพ : hatyaifocus.com